สวิสเซอร์แลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภาพบรรยากาศของภูเขา ต้นไม้ ทุ่งหญ้าสีเขียว ดอกไม้นานาพรรณ ทั้งหมดนี้นับว่าเป็นสิ่งดึงดูดที่ทำให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต้องการมาที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ การเลือกที่พักที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติเองก็เป็นสิ่งที่หลายคนฝันหา เพื่อเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ จากการเข้าพักในโรงแรมที่เต็มไปด้วยอากาศบริสุทธิ์ สองข้างทางที่มีภูเขาต้นไม้แทนอาคารสูงซึ่งสร้างความรู้สึกดีอยู่ไม่น้อย โดยที่พักกลางธรรมชาติที่จะทำการแนะนำนั้นมีชื่อเรียกว่า “ไวท์พอด อีโค – ลัคชูรีโฮเทล (Whitepod Eco – Luxury Hotel)” โรงแรมที่นำเสนอในรูปแบบการอยู่ร่วมธรรมชาติควบคู่ไปกับความหรูหราที่ลงตัว
โรงแรม ไวท์พอด อีโค – ลัคชูรีโฮเทล (Whitepod Eco – Luxury Hotel) ตั้งอยู่ที่ เลส จีทเทส (Les Giettes) , เดส เซิร์นเนียร์ (Des Cerniers) เป็นโรงแรมที่อยู่กลางลานภูเขามีความสูงจากน้ำทะเลกว่า 1,400 เมตร ทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ตัวอาคารมีการออกแบบให้อยู่ในลักษณะของโดมทรงครึ่งวงกลม และติดกระจกบริเวณด้านหน้าเพื่อให้มองเห็นทิวทัศน์จากห้องพัก
โรงแรม ไวท์พอด อีโค – ลัคชูรีโฮเทล (Whitepod Eco – Luxury Hotel) ยังเป็นโรงแรมประเภท อีโค เฟรนลีย์ (Eco – Friendly) ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย นอกจากนี้ยังเพิ่มความพิเศษด้วยห้องพักทั้ง 4 ประเภทที่แตกต่างกัน นับว่าเป็นโรงแรมที่สร้างความแปลกใหม่ไปพร้อมกับการรักษ์โลก
ห้องพักมีด้วยกันทั้งหมด 4 ประเภท โดยประเภทแรกคือ “โคซี พอด (Cosy Pod)” เป็นห้องที่มีขนาดไม่ใหญ่ เหมาะแก่การเข้าพักสำหรับคู่รัก ครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน โดยจะตกแต่งในสไตล์ที่เรียบง่าย เต็มไปด้วยความรู้สึกสบายตา ความพิเศษของห้องนี้อยู่ที่การได้มองทิวทัศน์ทั้งจากหน้าต่างภายในห้องพักและบริเวณหน้าระเบียง จะพบกับเนินเขากว้างที่จะทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจไปกับทุ่งหญ้าสีเขียวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และรู้สึกราวกับอยู่บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยปุยเมฆในช่วงฤดูหนาว
ห้องประเภทถัดมาเป็นห้อง “แฟมิลี พอด (Family Pod)” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อนักท่องเที่ยวที่มาพร้อมกับเด็ก ๆ เป็นห้องที่มีลักษณะที่คล้ายกับห้องประเภทโคซี พอด (Cosy Pod) แต่เพิ่มความพิเศษเฉพาะด้วยชั้นลอยที่สามารถรองรับเด็ก ๆ ได้มากถึง 2 คน โดยจุดเด่นอย่างหนึ่งนอกเหนือจากการรองรับการเข้าพักแบบครอบครัวแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถชมวิวของภูเขาโดยรอบได้จากภายในห้องพักอีกด้วย
“ดีลักซ์ พอด (Deluxe Pod)” เป็นห้องพักขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนและดื่มด่ำกับธรรมชาติเป็นเวลานาน บรรยากาศด้านในห้องพักจะใช้ไม้เป็นส่วนประกอบหลัก เพื่อเพิ่มความรู้สึกราวกับพักผ่อนอยู่บ้านของตนเอง และมีการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีขาวและสีกรมเพื่อให้ดูมีความเรียบหรูและทันสมัยมากขึ้น
และห้องประเภทสุดท้ายคือ “สวีท พอด (Suite Pod)” ซึ่งทางไวท์พอด อีโค – ลัคชูรีโฮเทล (Whitepod Eco – Luxury Hotel) ได้นำเสนอห้องประเภทนี้ออกมาเป็นทั้งหมด 4 สไตล์ที่ไม่ซ้ำกัน ไม่ว่าจะเป็น “เซ็น สวีท (Zen Suite)” ห้องพักหรูหราสไตล์ญี่ปุ่นสุดอบอุ่นบนกลางภูเขาแห่งสวิสเซอร์แลนด์, “ฟอเรสท์ สวีท (Forest Suite)” ห้องพักที่สร้างบรรยากาศให้รู้สึกราวกับนอนอยู่กลางป่าร่วมกับธรรมชาติ, “เดอะ ไทม์เลสส์ สวีท (The Timeless Suite)” ห้องพักไร้กาลเวลาที่จะทำให้อยากหยุดเวลาเมื่อเข้าพัก และ “สวิส สวีท (Swiss Suite)” ห้องพักพื้นเมืองที่จะทำให้นักท่องเที่ยวถูกห้อมล้อมด้วยกลิ่นอายความเป็นสวิสเซอร์แลนด์ ด้วยการยกคอกม้ามาใช้เป็นธีมหลักในการออกแบบ
ห้องพักสุดพิเศษจากประเภทนี้ที่น่าสนใจมีชื่อว่า “เดอะ ไทม์เลสส์ สวีท (The Timeless Suite)” ห้องพักใหม่ของทาง ไวท์พอด อีโค – ลัคชูรีโฮเทล (Whitepod Eco – Luxury Hotel) ที่ได้รับการออกแบบโดย “โอเดมาร์ ปิเกต์ (Audemars Piguet)” แบรนด์นาฬิกาชั้นนำของประเทศ ที่จะนำเสนอห้องพักเหนือกาลเวลาราวกับถูกหยุดเวลาแห่งการพักผ่อนนี้ไว้ สำหรับห้องพักเดอะ ไทม์เลสส์ สวีท (The Timeless Suite) จะถูกออกแบบมาด้วยธีมสีเขียวเข้ม เพื่อรองรับความเป็นธรรมชาติของทุ่งหญ้าและภูเขาสีเขียวในช่วงฤดูใบไม้ผลิ เพิ่มความพิเศษที่มีความเฉพาะตัวของแบรนด์นาฬิกาดัง ด้วยการใช้เตียงทรงกลมที่มีเฉพาะห้องพักนี้เท่านั้น
นอกจากพักผ่อนกายแล้ว ยังมีกิจกรรมให้พักผ่อนใจด้วยซาวน์นาสุดพิเศษที่แสนส่วนตัวให้ได้ใช้บริการ และสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับห้องเดอะ ไทม์เลสส์ สวีท (The Timeless Suite) นี้ คือการแช่น้ำร้อนกลางแจ้ง โดยการแช่น้ำร้อนแบบ “นอร์ดิก บาธ (Nordic Bath)” อ่างน้ำร้อนพื้นเมืองที่นิยมแช่กันเพื่อสุขภาพ ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้มีความทันสมัยมากขึ้น เพื่อเข้ากับความเป็นไวท์พอด อีโค – ลัคชูรีโฮเทล (Whitepod Eco – Luxury Hotel) และด้วยคอนเซ็ปต์ของโรงแรมที่ออกแบบมาเพื่อเป็น Eco – Friendly จึงมีการใช้ระบบที่มีการอนุรักษ์ทรัพยากรต่าง ๆ เพื่อลดการใช้ทรัพยากร หนึ่งในนั้นคือการใช้ระบบ “โกจ์ซา เชาเวอร์ (Gjosa Shower)” ที่ช่วยในการประหยัดการใช้น้ำได้มากถึง 65% ถือว่าเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวต้อง การอนุรักษ์ธรรมชาติ
ไม่เพียงแต่ห้องพักมีความแปลกตาและมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว กิจกรรมที่หลากหลายภายในโรงแรม เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความสนใจในโรงแรมแห่งนี้ ด้วยกิจกรรมที่มีการปรับให้เข้ากับฤดูกาล ทำให้นักท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น “พาราไกลดิง ไฟล์ท (Paragliding Flight)” ที่จะพานักท่องเที่ยวชมบรรยากาศโดยรอบของโรงแรมด้วยพาราซูท (Parachute) กิจกรรม “ลิทเทิล ฟอเรส์ท แอดเวนเจอร์ (Little Forest Adventure)” สำหรับเด็ก ๆ ที่ต้องการออกสำรวจป่าไม้ในช่วงฤดูร้อน นอกจากนี้โรงแรมยังได้มีการจัดกิจกรรมในช่วงฤดูร้อนอีกด้วย เช่น การเดินเขาพร้อมกับเหล่าน้องหมาฮัสกี้ที่แสนน่ารักของโรงแรม และกิจกรรมที่มีเพียงแค่ที่ไวท์พอด อีโค – ลัคชูรีโฮเทล (Whitepod Eco – Luxury Hotel) ที่เดียวเท่านั้น คือ “ไวท์พอด ชาเลนจ์ (Whitepod Challenge)” ที่จะให้นักท่องเที่ยวได้ออกเดินทางชมภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาว พร้อมกับการออกตามหาสมบัติในป่าบริเวณโรงแรม ผู้ชนะจะได้รับสิทธิพิเศษจากโรงแรมสามารถหาสมบัติเหล่านั้นเจอ
การเดินทางมายัง ไวท์พอด อีโค – ลัคชูรีโฮเทล (Whitepod Eco – Luxury Hotel) ไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิด เพราะโรงแรมแห่งนี้เขารองรับการเดินทางหลายรูปแบบเพื่อความสะดวกของนักท่องเที่ยว หากต้องการเดินทางโดยรถไฟจากสนามบินเจนีวา (Geneva) ก็สามารถโดยสารเพื่อตรงมายังสถานีรถไฟมอนเทย์ (Monthey) แล้วต่อรถบัสมายังเมืองเลส เซอร์เนียร์ (Les Cerniers) ใช้เวลาประมาณ 45 นาทีในการเดินทางโดยลงที่ป้ายเลส เซอร์เนียร์ เรสเทอรองท์ (Les Cerniers Restaurant)
สำหรับคนมีรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถเดินทางได้ด้วยการใช้เส้นทางไฮท์เวย์ A9 เพื่อเดินทางออกมายังทิศเหนือของเบ็กซ์ – เลวีย์ (Bex – Lavey) และตรงมายังมอนเทย์ (Monthey) ขับขึ้นไปตามทางเหนือจนเจอกับกระท่อมเล็ก ๆ เป็นการบ่งบอกว่าตอนนี้ได้เดินทางถึงเลส เซอร์เนียร์ (Les Cerniers) แล้ว สามารถจอดรถได้ตลอดระยะเวลาการเข้าพักโดยที่ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของโรงแรมไวท์พอด อีโค – ลัคชูรีโฮเทล (Whitepod Eco – Luxury Hotel) ที่พร้อมที่ให้ทุกคนมาเข้าพัก ไม่จำเป็นว่าจะต้องเข้าพักในช่วงฤดูกาลใดฤดูกาลหนึ่งเท่านั้น เพราะทุกฤดูกาลนักท่องเที่ยวที่เข้าพักจะได้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะทั้งทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่ปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลา กิจกรรมต่าง ๆ ที่มีเฉพาะในแต่ละฤดูกาล ทุกอย่างข้างต้นเป็นสิ่งการันตรีได้ว่าทุกคนไม่ควรพลาดกับการเข้าพักที่ไวท์พอด อีโค – ลัคชูรีโฮเทล (Whitepod Eco – Luxury Hotel) ด้วยประการทั้งปวง