เมืองหลวง เทียบได้กับหัวใจหรือศูนย์กลางของประเทศ เช่นเดียวกับ กรุงมอสโคว ที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของประเทศรัสเซีย อันเต็มเปี่ยมไปด้วยความสวยงามและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่ใครก็คาดไม่ถึง
กรุงมอสโคว เป็นเมืองหลวงของประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง รัสเซีย และเป็นเมืองหลวงที่มีประชากรถึง 12 ล้านคน จึงทำให้มอสโควเป็นศูนย์กลางทั้งด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจและการเมืองอย่างไม่ต้องสงสัย
มอสโคว (Moscow) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำมอสควา(Moskva River) หรือมอสโคว (москва) ในสมัยศตวรรษที่ 6 มอสโควแห่งนี้ยังคงเป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่กลางป่าเช่นเดียวกับเมืองอื่น หลายปีผ่านไป มีชนเผ่าเห็นความอุดมสมบูรณ์ จึงเข้ายึดครองมอสโคว นักรบจากมองโกเลียได้เข้าครอบครองเมืองนี้ในศตวรรษที่ 12 พวกเขาเผามอสโควจนหมดสิ้น แต่ชัยชนะก็ไม่ได้ยาวนานเท่าที่ควร เพราะในที่สุดประชาชนก็ได้ขับไล่ชาวมองโกลในช่วงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 1300 และมีพระเจ้าซาร์ ไอวาที่ 4 เป็นกษัตริย์ซึ่งเป็นผู้สร้างความเจริญให้แก่มอสโควด้วยการสร้างสถาปัตยกรรมสวยงาม และมอสโควก็ได้เจริญขึ้นเรื่อยมา
สำหรับใครที่อยากศึกษาประวัติศาสตร์และความเป็นอยู่ของเมืองนี้เพิ่มเติม ต้องเข้ามาชม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งรัฐ (State Historical museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์สไตล์นีโอ-รัสเซียที่บอกเล่าความเป็นมาของเมืองนี้และรวบรวมโบราณวัตถุของชนเผ่ายุคก่อนประวัติศาสตร์เอาไว้
จุดเด่นของมอสโคว คือ เมืองนี้เป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา มีความหลากหลายด้านสถาปัตยกรรมและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีทั้งพระราชวัง เช่นพระราชวังเครมลิน ซึ่งภายในมีทั้งวิหารสำคัญ ป้อมปราการ และสภาดูมาของรัสเซีย รอบๆ มีโบสถ์ออร์ทอดอกซ์ที่หรูหราและมีพิพิธภัณฑ์ด้านประวัติศาสตร์คือ พิพิธภัณฑ์อาเมอร์รีแชมเบอร์ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์อีกหลายแห่งให้เข้าไปสำรวจ
หากใครอยากเดินชมบรรยากาศโดยรอบของกรุงมอสโคว ก็ต้องมาที่ จัตุรัสแดงรัสเซีย เรียกได้ว่าเป็นจัตุรัสที่สวยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ นอกจากนี้ยังมีมหาวิหารสุดหรูหราให้เยี่ยมชม เช่น มหาวิหารเซนต์บาซิล , มหาวิหารเซนต์ เดอ ซาเวียร์
ขาช็อปไม่ควรพลาดกับห้างเก่าแก่ที่หรูหราราวกับพระราชวังอย่างห้างกุม (GUM) รับรองว่าถ้ามาจะต้องตะลึงในความงดงามของที่นี่
เมืองที่เต็มไปด้วยโบสถ์ วิหาร พร้อมด้วยบรรยากาศหนาวเย็นฉบับรัสเซียเช่นนี้ ใครไม่มาก็ต้องบอกเลยว่าพลาดประสบการณ์ดีๆไปอย่างแน่นอน