TalonEurope

จอร์เจีย อาร์เมเนีย อาเซอร์ไบจัน 9 วัน 8 คืน

  • Private & Join-In Tours
  • ระยะเวลา 9 วัน
  • ผู้เดินทางขั้นต่ำ 2 ท่าน
  • ผู้เดินทางสูงสุด 16 ท่าน

จุดหมายปลายทาง

  • ทัวร์จอร์เจีย

สถานที่ท่องเที่ยว

  • เมืองบาคู
  • เมืองโกบัสตาน
  • เมืองเก่าบากู (BAKU OLD CITY)
  • เมืองเชคี (SHEKI)
  • เมืองไซนากี
  • เมืองทบิลิซิ
  • เมืองมิชเคห์ตา
  • เมืองอุพลิสต์ซิเคห์
  • เมืองโกรี่
  • เมืองคาซเบกี
  • เมืองซาดาโคล
  • เมืองดีลิจาน
  • เมืองการ์นี
  • เมืองเยเรวาน

แพ็คเกจนี้เหมาะกับใคร

  • แพ็คเกจทัวร์ ยอดนิยม
  • แพ็คเกจทัวร์ เส้นทางอันซีน
  • แพ็คเกจทัวร์กับครอบครัว

ไฮไลท์แพ็คเกจทัวร์

แพ็คเกจท่องเที่ยว 3 ประเทศ 9 วัน 8 คืน จอร์เจีย – อาร์เมเนีย – อาเซอร์ไบจัน
เยือน 3 ประเทศเส้นทางท่องเที่ยวแห่งอารายธรรมนับพันปี แวะเยือนอาเซอร์ไบจาน จุดเชื่อมต่อยุโรปตะวันออกและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้
เที่ยวชม YUNAR DAG ดินแดนแห่งไฟ หุบเขาที่มีไฟพวยพุ่งตลอดเวลา ชมความสวยงามของเมืองต่างๆของอาเซอร์ไบจัน

แวะเยือนจอร์เจีย ประเทศที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 2,500 ปี เปิดประสบการณ์นั่งรถ 4WD เข้าสู่ใจกลางหุบเขาคอเคซัส ชมเมืองทบิลิซี เมืองแห่งสถาปัตยกรรมที่สวยงาม

แวะเยือนอาร์เมเนีย ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลทางใต้ของเทือกเขาคอเคซัส ศูนย์รวมโบราณวัตถุที่ถือได้ว่าเก่าแก่ที่สุดในโลก

แผนการเดินทางท่องเที่ยว

วันแรก กรุงเทพฯ – เมืองบาคู ประเทศอาเซอร์ไบจัน

เดินทางถึง สนามบินเฮย์ดาร์ อลิเยฟ เมืองบาคู (BAKU) ผ่านพิธีการตรวจเอกสารคนเข้าเมืองและศุลกากร เมืองบาคู (BAKU) เป็นเมืองหลวงของ อาเซอร์ไบจานที่ตั้งอยู่บริเวณริมทะเลสาบแคสเปียนบนคาบสมุทรเล็กๆ ที่มีชื่อว่า อับเซรอน ที่ยื่นออกไปในทะเล ประกอบด้วยพื้นที่ 3 ส่วน ย่านเมืองเก่าภายในกำแพงป้อมเท่านั้น ถนนที่มีลักษณะโค้งและแคบ (อิชเชอร์ เชเคอร์) ตัวเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยโซเวียตและตัวเมืองในปัจจุบัน

นำท่านผ่านชมความสวยงามของ เมืองบาคู (BAKU) ที่มีความเจริญมั่งคั่ง ถูกสร้างขึ้นหลังจากที่มีการนำน้ำมันอันจำนวนมหาศาลขึ้นมาใช้เป็นประโยชน์เมื่อเกือบศตวรรษที่ผ่านมา ซึ่งถูกสร้างให้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่รวมถึงอาคารและถนนสายต่างๆ

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 1) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางต่อไป แหลมอับเชรอน (ABSHERON PENINSULA) ซึ่งเป็นที่มีไฟติดอยู่ตลอดมา ยูนาร์แด๊ก (YUNAR DAG) หรือได้ชื่อว่าภูเขาแห่งไฟ สถานที่แห่งนี้เกิดขึ้นมาแต่โบราณกาล ที่มีเปลวไฟเกิดจากก๊าซที่ลุกไหม้ต่อเนื่องกันนาน จนเป็นที่รู้จักกันดี และได้ชื่อว่าเป็น ดินแดนแห่งไฟ (Land of Fire) นักธรณีวิทยาได้เรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า การพุ่งของก๊าซ (Gas-Oil Volcanoes) ให้ท่านได้ชมความแปลกประหลาดกับเปลวไฟที่ติดอยู่และเกิดขึ้นต่อเนื่องกัน ตลอดเวลา ซึ่งบางแห่งจะพวยพลุ่งออกมาประมาณ 10 ฟุต ไฟซึ่งเกิดจากก๊าซใต้ดินซึมผ่านชั้นของหินทรายที่เป็นรูพลุ่งขึ้นมาเหนือพื้นดินและติดไฟได้ และที่สำคัญที่สุดได้แสดงให้เห็นแล้วว่า อาเซอร์ไบจานเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยก๊าซธรรมชาติอย่างมากมาย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 2) ณ ร้านอาหารท้องถิ่นสไตล์อาเซอร์ไบจัน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ เมืองบาคู

*****************************************************

วันที่สอง เมืองโกบัสตาน – ทัวร์รอบเมืองบาคู

เช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 3) ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านไปเที่ยวชม โกบัสตาน (GOBUSTAN AREA) ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ อยู่ห่างจากเมืองบากูประมาณ 65 กม. เป็นบริเวณที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีการแกะสลักภาพบนหินของมนุษย์ที่งดงาม (Rock Petroglyphs) และนอกจากนั้นยังมีภูเขาโคลนที่มีรูปร่างเหมือนภูเขาไฟซึ่งมีโคลนสีดำพลุ่งขึ้นมาตลอดเวลา (MUD VOLCANOES/MUD DOMES) บริเวณแห่งนี้ได้เกิดขึ้นมานานมากประมาณแปดพันกว่าปีก่อนคริสตกาล มีพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 100 ตร.กม.และในอดีตราวศตวรรษที่ 12 ก่อนคริสตกาล คาดว่าเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าที่มีความสามารถแกะสลักภาพบนก้อนหินได้ ทำให้นักมานุษยวิทยาหลายท่านได้เดินทางเข้ามาศึกษาในระหว่างปี ค.ศ.1961-2002 พร้อมกับลงความเห็นพ้องต้องกันว่า พวกสแกนดิเนเวียนได้มีการเดินทางอพยพจากทางด้านเหนือ เข้ามายังที่บริเวณภูเขาคอเคซัสแห่งนี้ เพราะว่าภาพต่างๆที่เขียนออกมามีความคล้ายกันกับของพวกทางแถบนั้นและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2007 ให้ท่านได้ชมความสวยงามของภูเขาหินที่มีการแกะสลักภาพที่เป็นรูปต่างๆบนก้อนหิน (Rock Art Cultural Landscape) เช่นภาพการล่าสัตว์ รูปคนเต้นรำ เรือ หมู่ดาวและสัตว์ต่างๆ ฯ

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 4) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

นำท่านชม เมืองเก่าบากู (BAKU OLD CITY) ที่เรียกว่า ย่านอิเซรีเซเคอร์ (Icheri Shekher) ซึ่งเป็นย่านที่มีโบราณสถานเก่าแก่ที่สำคัญ และเป็นสัญลักษณ์ของเมืองบากูที่ไม่เหมือนกับที่แห่งใดๆ เมืองเก่าบากู นี้ถูกสร้างขึ้นโดยมีกำแพงป้อมล้อมรอบ และรอบกำแพงจะมีการสร้างเป็นป้อมหอคอยซึ่งมีทั้งหมด 44 แห่ง และมีประตูทางเข้าออกถึง 5 แห่ง สถานที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยกษัตริย์แห่งราชวงศ์ชีวาน และภายในเป็นคอมเพล็กซ์มีสถานที่สำคัญภายในหลายแห่ง อาทิ

  • พระราชวังแห่งราชวงศ์เชอร์วาน (SHIRVAN SHAH’S PALACE) สถานที่พำนักของกษัตริย์แห่งราชวงศ์เชอร์วาน
  • สุเหร่าดีวานข่าน (DIVANKHANE MOSQUE)
  • หอคอยไมเดน (MAIDEN TOWER) ซึ่งถือว่าเป็นส่วนที่เก่าแก่ของเมืองบากู สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12

 

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 5) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ที่พัก นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ เมืองบาคู

*****************************************************

วันที่สาม เมืองบาคู – เมืองเชคี – ทัวร์รอบเมืองเชคี

เช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 6) ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชคี (SHEKI) ศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดเชคี ตั้งอยู่ในบริเวณเทือกเขาคอเคซัสใหญ่และอยู่ติดกับจอร์เจีย อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ และ วัฒนธรรม เมืองเชคี เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีวิถีชีวิตที่โดดเด่น ด้วยความลงตัวของสภาพแวดล้อมและอารยธรรมเกิดเป็น เมืองที่งดงามด้วยศิลปะและ วัฒนธรรม

ชมความสวยงามของเมืองเชคี เมืองที่มีชื่อเสียงในการแกะสลักไม้ ที่มีการค้าขายเกี่ยวกับเส้นทางสายไหมในอดีต ซึ่งจะมีที่พักสำหรับกองคาราวานที่เดินทางมาแวะพักที่เมืองนี้

ชม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ (SHEKI HISTORY MUSEUM) พิพิธภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตไหมการค้า และสถาปัตยกรรมและอนุสาวรีย์ของ SHIRVAN (ยุคกลางของ SHIRVANSHAHS) และสถานที่ อื่น ๆ เช่น คาราวานซาราย (CARAVANSERAI) สุเหร่าจูมา (JUMA MOSQUE) มาดราสซ่า (MADRASSA)

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 7) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ชม พระราชวัง PALACE OF SHEKI KHANS สร้างขึ้นในปีค.ศ.1761-1762 ใช้เป็น ที่ประทับของข่านมุชตาด เป็นพระราชวังสองชั้นตกแต่งด้วยภาพเฟรสโก้อันงดงาม และงานกระจกสีอันงดงามที่เรียกว่า Shebeke งดงามทั้งภายในและภายนอก บางส่วนของจิตรกรรมฝาผนังมีลายดอกไม้นานาพันธุ์ และภาพที่แสดงถึงการล่าสัตว์โบราณหรือ การต่อสู้ พระราชวังแห่งนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1998

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 8) ณ ร้านอาหารสไตล์เชคี
ที่พัก นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ เมืองเชคี

*****************************************************

วันที่สี่ เมืองเชคี ประเทศอาเซอร์ไบจัน – เมืองไซนากี ประเทศจอร์เจีย – เมืองทบิลิซิ

เช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 9) ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านข้ามแดนสู่ ประเทศจอร์เจีย และนำท่านเดินทางสู่ เมืองไซนากิ (SIGNAGI) เป็นเมืองที่มีหมู่บ้านเล็ก น่ารักบนเนินเขา และเป็นเมืองป้อมปราการในศตวรรษที่ 17 สามารถชื่น ชมกับภูมิทัศน์ตระการตาของเทือกเขาคอเคซัสได้อย่างใกล้ชิด รวมถึง สถาปัตยกรรมและสีสันของบ้านเรือนตามเนินเขา ทำให้เมืองไซนากิเป็น ที่นิยมของนักท่องเที่ยวกลุ่มคู่รัก และได้รับอีกสมญานามว่า นครแห่ง ความรัก ท่านจะได้เห็นแนว กำแพงเมืองโบราณ (SIGHNAGHI CITY WALL) ที่ เหลืออยู่ และตัวเมืองเก่า นอกจากนั้นไซห์นากียังเป็นศูนย์กลางทาศิลปะ ของพวกช่างฝีมือแขนงต่างๆ เช่นเดียวกับชื่อเสียงด้านการทำไร่องุ่นซึ่งมี กำลังการผลิตไวน์ได้ถึง 70% ของประเทศ (ระยะทาง 46 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 55 นาที)

จากนั้นนำท่านชม พระราชวังซินันดาลิ (TSINANDALI PALACE) ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของTelavi ตั้งอยู่ทางตะวันออกและห่างจากเมืองทบิลิซี 79 กิโลเมตร พระราชวังนี้ขึ้นชื่อในเรื่องพระราชวังและโรงกลั่นเหล้าองุ่นเก่าแก่ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นของกวีชนชั้นสูงแห่งศตวรรษที่ 19 Alexander Chavchavadze (พ.ศ. 2329-2489) และเป็นสถานที่จัดเทศกาล Tsinandali ตั้งแต่ปี 2019

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 10) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองทบิลิซิ (TBILISI) เมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของจอร์เจียตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคูรา (KURA) หรือเรียกว่า แม่น้ำมทควารี (MTKVARI) ในภาษาท้องถิ่น เมืองนี้ถูกสร้างโดยวาคตัง จอร์กาซาลี กษัตริย์จอร์เจียแห่งคาร์ตลี (ไอบีเรีย) ได้ก่อตั้งเมืองนี้ขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 4 เมืองทบิลิซิเป็นศูนย์กลางการทางอุตสาหกรรม สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาคคอเคซัส ในประวัติศาสตร์เมืองนี้อยู่ในสายทางหนึ่งของเส้นทางสายไหมและปัจจุบันยังมีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางการขนส่งและการค้า (ระยะทาง 109 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 11) ณ ร้านอาหารท้องถิ่นสไตล์จอร์เจีย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ เมืองทบิลิซิ

*****************************************************

วันที่ห้า เมืองทบิลิซิ – อุทยานแดชบาชี – เมืองทบิลิซิ

เช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 12) ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ อุทยานแดชบาชี (DASHBASHI CANYON) ระยะทาง 94 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 13) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

นำท่านชม สะพานแขวนกระจกแก้วที่มีแถบรูปเพชรแขวนอยู่ตรงกลาง (DIAMOND BRIDGE) ซึ่งมีความยาว 240 เมตร และสูงเหนือพื้นดิน 149 เมตร โดยสะพานแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นโดยกลุ่มนักลงทุนแคสส์ (Kass Group) ซึ่งสะพานมีลักษณะโปร่งใส ตั้งทอดยาวข้ามอนุสาวรีย์ธรรมชาติ โดยนักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันกว้างไกล และมุมมองที่สวยงามของน้ำตกและถ้ำที่สวยงาม โดยถูกก่อสร้างขึ้นจากเหล็กและแก้ว ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี โดยจุดเด่นที่ทำให้สะพานแห่งนี้ แตกต่างจากที่อื่นของโลก คือแถบหลายระดับ ซึ่งตั้งอยู่ที่จุดสูงสุด ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นโครงสร้างแขวนที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในโลก

นำท่าน ช้อปปิ้งศูนย์การค้าใจกลางเมือง ณ กรุงทบิลิซี่ ที่เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่ และสินค้าแบรนด์เนมหลากหลายแบรนด์

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 14) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ที่พัก นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ เมืองทบิลิซิ

*****************************************************

วันที่หก เมืองทบิลิซิ – เมืองมิชเคห์ตา– เมืองอุพลิสต์ซิเคห์ – เมืองโกรี่ – เมืองทบิลิซิ

เช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 15) ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองมิชเคห์ตา (MTSKHETA) เมืองหลวงเก่าของประเทศจอร์เจียก่อนที่จะย้ายเมืองหลวงไปที่ Tbilisi เมืองนี้เป็นเมืองเก่าที่มีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรมและมีเสน่ห์ของกลิ่นไอของยุคเก่า รวมไปถึงทำเลที่ตั้งที่อยู่ตรงกลางระหว่างแม่น้ำสองสายมาบรรจบกันคือ แม่น้ำ Kura และ แม่น้ำ Aragvi ทำให้เมืองนี้มีความอุดมสมบูรณ์และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอีกด้วย (ระยะทาง 26 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 35 นาที)

นำท่านชม วิหารสเวทิชโคเวลิ (SVETITSKHOVELI CATHEDRAL) ที่สร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 11 โบสถ์แห่งนี้ถือเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของจอร์เจีย สร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาวจอร์เจีย ชื่อ Arsukisdze ตัววิหารมีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศอีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางที่ทำให้ชาวจอร์เจียเปลี่ยนความเชื่อหันมานับถือศาสนาคริสต์ และให้ศาสนาคริสต์มาเป็นศาสนาประจำชาติของจอร์เจียเมื่อปี ค.ศ. 337 และถือเป็นสิ่งก่อสร้างยุคโบราณ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจอร์เจีย

จากนั้นนำท่านชม วิหารจวารี (JVARI MONASTERY) ซึ่งเป็นวิหารในรูปแบบของคริสต์ศาสนาออร์โธด๊อกที่ถูกสร้างขึ้นในราวศตวรรษที่ 6 ซึ่งชาวจอร์เจียสักการะนับถือบูชาเป็นอย่างมาก ภายในโบสถ์มีไม้กางเขนขนาดยักษ์ซึ่งชาวเมืองกล่าวกันว่า นักบุญนีโน่แห่งคัปปาโดเกีย ได้นำไม้กางเขนนี้เข้ามาพร้อมกับการเผยแพร่ศาสนาคริสต์เป็นครั้งแรกในช่วงโบราณกาล วิหารแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีแม่น้าสองสายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำมิควารี และแม่น้ำอรักวีและถ้ามองออกไปข้ามเมืองมคสเคต้าไปยังที่บริเวณที่กว้างใหญ่ ซึ่งในอดีตเคยเป็นอาณาจักรของไอบีเรีย Kingdom of Iberia ซึ่งได้เคยปกครองดินแดนในบริเวณนี้ตั้งแต่ 400 ปี ก่อนคริสตกาลจนถึงราวคริสต์ศตวรรษที่ 5 จากนั้นอิสระให้ท่านเก็บภาพทิวทัศน์ของเมืองมคสเคต้าและจุดบรรจบของแม่น้ำคูรา และแม่น้ำอะรักวีซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างมาก

นำท่านเดินทางแวะ เมืองอุพลิสต์ซิเคห์ (UPLISTSIKHE) เป็นบริเวณถ้ำที่ถูกทำขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ในยุคการเริ่มต้นราวศตวรรษที่ 8-7 ก่อนคริสตกาล ซึ่งในอดีตเป็นเส้นทางการค้าขายสินค้าจากอินเดียสู่ทางด้านเหนือแถบหมู่บ้านมทวารี และหุบเขารีโอนีไปยังทะเลดา และต่อไปยังด้านตะวันตกทำให้เกิดการพัฒนาการเป็นเมืองต่างๆหลายเมือง และอัพลิสต์ซิคห์ ก็เป็นเมืองหนึ่งที่เป็นศูนย์กลางการค้า ต่อมาก็ได้ถูกขยายออกไปจนกว้างขวาง นำท่าน ชมหมู่บ้านที่ถูกสร้างจากถ้ำ โดยมีเนื้อที่กว้างประมาณ 50 ไร่ ได้ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนใต้ ส่วนกลางและส่วนเหนือ ซึ่งส่วนกลางจะมีบริเวณใหญ่ที่สุด ประกอบไปด้วยสถาปัตยกรรมการสร้างตัดหิน และเจาะลึกเข้าไปเป็นที่อยู่อาศัย นอกจากนั้นยังถูกสร้างให้ต่อไปยังส่วนใต้โดยผ่านอุโมงค์และทางแคบๆ และบางแห่งก็จะมีบันไดจากศูนย์กลางกระจายออกไปยังส่วนต่างๆ ถ้าส่วนมากจะไม่มีการตกแต่งใดๆ ภายในเลย ถึงแม้ว่าบางแห่งจะเจาะเป็นถ้ำใหญ่โตก็จะมีเพดานห้องที่ทำเป็นที่หลบซ่อน อีกทีหนึ่ง และบางแห่งถึงแม้จะใหญ่โตแต่ก็ได้เจาะห้องเล็กๆ ทางด้านหลังหรือทางด้านข้างอีกด้วย ซึ่งบางที่อาจจะใช้ในการประกอบพิธีต่างๆ ได้ด้วย ในราวศตวรรษที่ 9-10 ที่ด้านบนของ สถานที่แห่งนี้ได้ถูกสร้างเป็นยอดโดมด้วยหินและก่ออิฐ ซึ่งต่อมานักโบราณคดีได้ค้นพบสิ่งต่างๆ มากมาย รวมทั้งเครื่องทองเครื่องเงินและอัญมณีต่างๆ และยังมีเครื่องเซรามิคและการแกะสลักที่สวยงาม ซึ่งสิ่งของต่าง ๆ เหล่านี้ได้ถูกนำไปไว้ที่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่กรุงทบิลิซิ (ระยะทาง 77 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที)

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 16) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

นำท่านออกเดินทางต่อสู่ เมืองโกรี (GORI) ที่อยู่ทางด้านตะวันตกของเมืองทบิลิซี ระยะทางห่างประมาณ 70 กม. กอรีเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดชีดา คาร์ทลี เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขาให้ท่านได้ชมความสวยงามของเมืองกอรี ที่ในอดีตเคยมีความสำคัญทางด้านทหารในยุคกลางเป็นที่ตั้งข องกองกำลังที่อยู่บนถนนสายสำคัญที่เชื่อมกับทางด้านตะวันออกและด้านตะวันตก นอกจากนั้นเมืองนี้ยังเป็นเมืองบ้านเกิดของโจเซฟ สตาลิน อดีตผู้นำที่มีชื่อเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์โซเวียต และอเล็กซานเดอร์ นาดี ราซี ผู้เป็นนักออกแบบชื่อดังในด้านจรวดขีปนาวุธข้ามทวีปของโซเวียต

นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์สตาลิน (STALIN MUSEUM) ตั้งอยู่บนถนนสตาลิน (Stalin Avenue) ใจกลางเมืองโกรี เรื่องราวของสตาลินมากมายถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่ ทั้งภาพถ่าย ภาพวาด ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว และของขวัญ ของกำนัล จากบรรดามิตรประเทศ นำท่านเข้าชมบ้านซึ่งสตาลินเคยพักสมัยยังวัยเยาว์ จากนั้นนำท่านชมขบวนรถไฟโบราณซึ่งเดิมเป็นรถไฟของจักรพรรดิซาร์นิโคลัสที่ 2 แห่งราชวงศ์โรมานอฟ ต่อมาได้กลายเป็นของสตาลิน ภายในขบวนรถไฟแบ่งเป็นห้องเล็กๆ ทั้งห้องทำงานของสตาลิน ห้องพักผ่อน เป็นต้น สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองทบิลิซิ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 17) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
ที่พัก นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ เมืองทบิลิซิ

*****************************************************

วันที่เจ็ด เมืองทบิลิซิ – เมืองคาซเบกี – เมืองทบิลิซิ

เช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 18) ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคาซเบกี (KAZBEGI) คาซเบกีเป็นชื่อเมืองเก่าที่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็น สเตพานท์สมินด้า (STEPANTSMINDA) หลังจากนักบุญนิกายออร์โธด๊อก ชื่อสเตฟานได้มาพำนักอาศัยและก่อสร้างสถานที่สำหรับจาศีลภาวนาขึ้นมาเมืองคาซเบกี้ เมืองนี้ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเทือกเขาคอเคซัส (Caucasus Mountains) (ระยะทาง 132 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที)

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 19) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

ระหว่างการเดินทาง นำท่านแวะถ่ายรูปกับ ป้อมปราสาทอันนานูรี (ANANURI FORTRESS) สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 13 ถูกออกแบบให้มีหอคอยสูงและมีความแข็งแกร่งเพื่อใช้เป็นที่หลบภัยในยามศึกสงคราม นับเป็นป้อมปราการของชาวคริสต์ในอตีตกาลที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคคอเคซัส และไม่ยอมตกอ ยู่ภายใต้อิทธิพลของจักรวรรดิออตโตมันและเปอร์เซียซึ่งเป็นชาวมุสลิมและชมวิว อ่างเก็บน้ำซินวาลี (ZHINVALI RESERVOIR) และยังมีเขื่อนซึ่งเป็นสถานที่ ที่สำคัญสำหรับนำน้ำที่เก็บไว้ส่งต่อไปยังเมืองหลวงพร้อมผลิตกระแสไฟฟ้าอีกด้วย

นำท่าน ขึ้นรถ 4WD (รถขับเคลื่อน 4 ล้อ) เพื่อเข้าสู่ใจกลางหุบเขาคอเคซัส (CAUCASUS) ชมความสวยงามของ โบสถ์เกอร์เกตี้ (GERGETI TRINITY CHURCH) สร้างด้วยหินแกรนิตขนาดใหญ่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 เป็นโบสถ์ชื่อดังกลางหุบเขาคอเคซัส ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญหนึ่งของประเทศจอร์เจีย ตั้งอยู่บนเทือกเขาคาซเบกี้ที่ระดับความสูงจากน้ำทะเล 2,170 เมตร

จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองทบิลิซิ (ระยะทาง 158 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 20) ณ ร้านอาหาร
ที่พัก นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ เมืองทบิลิซิ

*****************************************************

วันที่แปด เมืองทบิลิซิ – เมืองซาดาโคล – เมืองดีลิจาน

เช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 21) ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองซาดาโคล (SADAKHLO) ที่อยู่ทางด้านใต้ ซึ่งเป็นเมืองพรมแดนที่อยู่ติดกับอาร์เมเนีย และยังตั้งอยู่ใกล้กับอาเซอร์ไบจานอีกด้วย จึงทำให้เป็นเมืองที่มี 3 บรรยากาศ คือ ความเป็นจอร์เจีย เป็นอาร์เมเนียและเป็นทั้งอาเซอร์ไบจาน ตลอดเส้นทางท่านจะได้ชมวิวทิวทัศน์และธรรมชาติอันสวยของเทือกเขาคอเคซัสน้อยที่อยู่ระหว่างอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจานนำท่านผ่านด่านเมืองซาดาโคล และข้ามพรมแดนโดยมี เมืองบากราทาเชน (BAGRATASHEN) ที่เป็นเมืองชายแดนของอาร์เมเนียที่อยู่ติดกับจอร์เจีย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮักห์พาท (HAGHPAT) เป็นเมืองในหมู่บ้านของจังหวัดลอรี่ (LORI) ที่อยู่ทางด้านเหนือของอาร์เมเนีย เมืองนี้เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเพราะเป็นที่ตั้งของวัดอารามโบราณทั้งสองแห่งให้ท่านได้ชมความสวยงามของ วัดอารามโบราณฮักห์พาท (HAGHPAT MONASTERY) ซึ่งถือได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกของทางด้านศาสนาและทางด้านสถาปัตยกรรมในการก่อสร้างในยุคกลาง อารามแห่งนี้ได้ถูกสร้างขึ้นโดยนักบุญนิชาน (SAINT NISHAN) ในราวศตวรรษที่ 10 ซึ่งอยู่ในระการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์อะบาส ที่ 1 (KING ABAS I) และนอกจากนั้นก็ยังมีแห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นใกล้ๆ กัน คือ อารามซานาฮิน (SANAHIN MONASTERY) และสถานที่ทั้งสองแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของโลกในปีค.ศ.1996 ชมตัวโบสถ์เล็กๆ ของนักบุญนิชานได้ถูกสร้างในราวปีค.ศ.966-67 ต่อมาก็ได้ถูกสร้างขยายให้ใหญ่โตขึ้นและมีการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตัวโบสถ์ใหญ่ในส่วนนี้ คือ วิหารของนักบุญนิชานถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.967-991 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมในยุคของศตวรรษที่ 10 ของแบบอาร์เมเนียน

นำท่านแวะชม CROSS STONES หรือ KHACHKARS เป็นหนึ่งในศิลปะคริสเตียนของอาร์เมเนีย เป็นงานแกะสลักหินภูเขาไฟโดยช่างท้องถิ่น ซึ่งตั้งเรียงรายกันนับ 100 กว่าชิ้น

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 22) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางไปยัง เมืองดีลิจาน (DILIJAN) ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดทาวุสที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของทะเลสาบฯ เป็นเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญทางด้านการท่องเที่ยวซึ่งจะมีรีสอร์ทที่พักหลายแห่ง และมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 16,000 คนเมืองนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอักสเทฟ ที่มีความยาวประมาณ 20 กม. เมตร ที่อยู่เหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,500 เมตร บรรยากาศของเมืองจะเป็นธรรมชาติที่สดชื่น และหนาแน่นเต็มไปด้วยป่าเขาที่เขียวชอุ่ม สถานที่แห่งนี้จึงได้ชื่อว่า สวิตเซอร์แลนด์น้อยแห่งอาร์เมเนีย “LITTLE SWITZERLAND OF ARMENIA”

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ (มื้อที่ 23) ณ ร้านอาหารจีน
ที่พัก นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก ณ เมืองดีลิจาน

*****************************************************

วันที่เก้า เมืองดีลิจาน – เมืองการ์นี – เมืองเยเรวาน

เช้า รับประทานอาหารเช้า (มื้อที่ 24) ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านออกเดินทางไปยัง เมืองเซวาน (SEVAN) ตั้งอยู่บริเวณริม ทะเลสาบเซวาน (LAKE SEVAN) ระยะทางห่างประมาณ 60 กม. ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดและทะเลปิดในประเทศอาร์เมเนียและเทือกเขาคอเคซัสน้อย ทะเลสาบนี้เป็นหนึ่งในทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทะเลสาบเซวานล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำหลายสาย เช่น แม่น้ำฮราซดาน และแม่น้ำมาซริคให้ท่านได้ชมความสวยงามของตัวเมืองและทะเลสาบเซวานที่เต็มไปด้วยสถานที่พักผ่อนรีสอร์ทของนักท่องเที่ยว ตัวเมืองนี้ตั้งอยู่สูงกว่ากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,900 เมตร

นำท่านไปชม อารามเซวาน (SEVAN MONASTERY) หรือมีชื่อเรียกว่า เซวานาแว๊งค์ (SEVANAVANK) ซึ่งคำว่า แว๊งค์ เป็นภาษาอาร์เมเนีย มีความหมายว่า โบสถ์วิหาร สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณแหลมที่อยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของฝั่งทะเบสาบเซวานถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.874 โดยเจ้าหญิงมาเรียม ซึ่งเป็นธิดาของกษัตริย์อะช๊อตที่ 1 ซึ่งอยู่ในช่วงของการต่อสู้กับพวกอาหรับที่ปกครองดินแดนแห่งนี้

กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่ 25) ณ ร้านอาหารท้องถิ่น

บ่าย นำท่านเดินทางสู่ วิหารเกกฮาร์ด (GEGHARD MONASTERY) เป็นวิหารที่สร้างอยู่กลางเทือกเขา ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 12-13 วิหารนี้มีส่วนที่สร้างโดยการตัดหินเข้าไปในภูเขา โดยส่วนของห้องโถงของตัวโบสถ์มีการตัดหินสร้างเป็นโดมแกะสลักสวยงาม ซึ่งเป็นหนึ่งในความสวยงามของอาร์เมเนีย และได้ขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลก UNESCO World Heritage Site เมื่อปี ค.ศ. 2000

จากนั้นนำท่านชม วิหารการ์นี (GARNI TEMPLE) เป็นวิหารแบบกรีก แต่ลวดลายอาคารเป็นศิลปะแบบอาร์เมเนีย มีอายุกว่า 1,700 ปี บริเวณนี้เคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนของกษัตริย์อาร์เมเนีย วิหารนี้เคยถูกทำลายด้วยแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1679 แต่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมประกอบใหม่ในสมัยสหภาพโซเวียตเมื่อปี ค.ศ.1974 จึงทำให้สมบูรณ์อย่างที่เห็น

จากนั้นนำท่านเที่ยวชม เมืองเยเรวาน (YEREAN) เมืองหลวงของประเทศตั้งอยู่บนหุบเขาอารารัต เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศอาร์เมเนียตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮราซดาน ท่านสามารถมองเห็นภูเขาอารารัตที่มีความสูงถึง 5,000 เมตรซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ในประเทศตุรกี

นำท่านชม เดอะคาสเคด (THE CASCADE) จากด้านนอก ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดของเยเรวาน มีลักษณะเป็นแบบขั้นบันไดลดหลั่นกันลงมามีความสูงประมาณ 500 เมตร และมีการปล่อยน้ำลงมาเพื่อให้เป็นน้ำตกลงเป็นสายจากใจกลางที่อยู่ด้านบน ซึ่งสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างนี้ถูกสร้างให้เป็นอนุสาวรีย์แห่งชัยชนะของโซเวียตรัสเซีย

จากนั้นนำท่านผ่านชม โรงละครแห่งชาติอาร์เมเนีย ซึ่งเป็นโรงละครไว้สำหรับแสดงโอเปร่าและบัลเล่ต์ได้รับการตั้งชื่อตาม Alexander Spendiaryan ในเยเรวานเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 1933 โดยมีการแสดงโอเปร่า Almast ของ Alexander Spendiaryan อาคารโอเปร่าได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอาร์เมเนีย

จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง จตุรัสกลางเมืองเยเรเวาน เป็นจตุรัสกลางเมืองเยเรวาน บริเวณตรงกลางจะมีสระน้ำพุขนาดใหญ่ และบริเวณรอบๆมีร้านค้าต่างๆมากมาย ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่สนามบินเพื่อเดินทางกลับ

 

อัตราค่าบริการรวม

  • โรงแรมที่พักตามรายการระบุหรือเทียบเท่า เข้าพัก 2 ท่านต่อหนึ่งห้อง พร้อมอาหารเช้า
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าเช้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าธรรมเนียมประกันอุบัติเหตุการเดินทาง โดยที่
    • การเสียชีวิตหรือการสูญเสียอวัยวะเนื่องจากอุบัติเหตุใน วงเงินท่านละ 1,000,000.- บาท
    • ค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุและเจ็บป่วย วงเงินท่านละ 500,000.- บาท

 

อัตราค่าบริการไม่รวม

  • ค่าตั๋วเครื่องบินในประเทศและระหว่างประเทศ
  • ค่าภาษีสนามบิน ค่าภาษีเชื้อเพลิง ค่าประกันภัยของสายการบิน
  • ค่าปรับ สำหรับน้ำหนักกระเป๋าเดินทางที่เกินจากที่ทางสายการบินกำหนดไว้
  • อัตราผกผันน้ำมันและภาษีต่าง ๆ หากมีการปรับขึ้นจากสายการบิน และการผันผวนของค่าเงิน
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิเช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ค่าอาหารและค่าเครื่องดื่ม นอกเหนือจากที่บริษัทฯกำหนด
  • ค่าทำหนังสือเดินทาง / ต่อหน้าเล่มหนังสือเดินทาง
  • ค่าทิปพนักงานขับรถและพนักงานยกกระเป๋า

เงื่อนไขแพ็คเกจทัวร์ และข้อมูลสำคัญ

  1. บริษัทฯ รับเฉพาะผู้มีวัตถุประสงค์เดินทางเพื่อท่องเที่ยวเท่านั้น การเดินทางของผู้เดินทางด้วยวัตถุประสงค์แอบแฝงอื่น ๆ เช่น การไปค้าแรงงาน การค้าประเวณี การค้ามนุษย์ การขนส่งสินค้าหนีภาษี การขนยาเสพติด การโจรกรรม การขนอาวุธสงคราม การก่อการร้าย และ อื่น ๆ ที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรมอันดี บริษัทฯ มิได้มีส่วนรู้เห็น เกี่ยวข้อง หรือ มีส่วนต้องรับผิดชอบใด ๆ กับการกระทำดังกล่าวทั้งสิ้น
  2. หากผู้เดินทางถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของประเทศนั้นๆ ปฏิเสธการเข้า - ออกเมือง ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม ถือเป็นเหตุผลซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจ และความรับผิดชอบของบริษัทฯ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบคืนเงินทั้งหมด
  3. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบในกรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองของประเทศไทยงดออกเอกสารเข้าเมืองให้กับชาวต่างชาติ หรือ คนต่างด้าวที่พำนักอยู่ในประเทศไทย แต่จะทำหน้าที่ช่วยเหลือเจรจา แต่อำนาจสิทธิ์ขาดเป็นของทางกองตรวจคนเข้าเมือง
  4. ผู้เดินทางต้องใช้วิจารณญาณส่วนตัวและรับผิดชอบต่อการตัดสินใจในการเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ ในระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวท่านเอง บริษัทฯ จะไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากเกิดความไม่พึงพอใจในสินค้าที่ผู้เดินทางได้ซื้อระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวนี้
  5. ผู้เดินทางต้องรับผิดชอบต่อการจัดเก็บ และ ดูแลทรัพย์สินส่วนตัว ของมีค่าต่าง ๆ อย่างระมัดระวัง บริษัทฯ จะไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากเกิดการสูญหายของ ทรัพย์สินส่วนตัว ของมีค่าต่าง ๆ ระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว อันมีสาเหตุมาจากผู้เดินทาง
  6. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญหายของทรัพย์สิน และ สัมภาระระหว่างการเดินทางอันมีสาเหตุมาจากสนามบิน สายการบิน บริษัทขนส่ง โรงแรม หรือ การโจรกรรม แต่จะทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการเรียกร้องค่าชดใช้ให้กับผู้เดินทาง
  7. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากการยกเลิกหรือความล่าช้าของสายการบิน ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงาน การจลาจล การปฏิวัติ รัฐประหาร ที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯ หรือ ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรง หรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้า หรือ จากอุบัติเหตุต่างๆ
  8. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ต่อการไม่เป็นไปตามความคาดหวัง และความไม่พึงพอใจของผู้เดินทางที่เกี่ยวข้องกับ สภาพธรรมชาติ ภูมิอากาศ ฤดูกาล ทัศนียภาพ วัฒนธรรม วิถีและพฤติกรรมของประชาชนในประเทศที่เดินทางไป

Send listing report

You already reported this listing

This is private and won't be shared with the owner.

Appointments

 

 / 

Sign in

Send Message

My favorites

Application Form

Claim Business

Share

error: